พระราชสังวรญาญ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
วัดป่าสาละวัน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
ลูกศิษย์องค์สุดท้ายของ หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล
นามเดิม : พุธ อินทรหา
เกิด : เมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๔ ณ หมู่บ้านชนบท ตำบลหนองหญ้าเซ้ง อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี เป็นบุตรคนเดียวของบิดามารดา ครอบครัวมีอาชีพทำนาทำไร่ ในช่วงอายุได้ ๔ ขวบ บิดามารดาได้ถึงแก่กรรม ท่านจึงย้ายมาอยู่กับญาติพี่น้องที่ หมู่บ้านโคกพุทรา ตำบลตาลเนิ้ง อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร
อุปสมบท : ในช่วงวัยเยาว์ ท่านได้ออกศึกษาหาความรู้ในโรงเรียนประชาบาลวัดไทรทอง ท่านได้เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ จึงได้ลาออกมาแล้วบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๙ เมื่อมีอายุได้ ๑๕ ปี ที่วัดอินทร์สุวรรณ บ้านโคกพุทรา ตำบลตาลเนิ้ง อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร โดยมีท่าน พระครูวิบูลย์ธรรมขันธ์ เจ้าคณะอำเภอสว่างแดนดิน เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังบรรพชาแล้วได้ติดตาม พระอริยคุณาธาร (เส็ง ปุสฺโส) ธุดงค์ไปยังจังหวัดอุบลฯ ได้ฝากตัวเป็นศิษย์พระอาจารย์พร สุมโน พระอาจารย์พรได้นำท่านไปฝากเป็นศิษย์ของหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล ที่วัดบูรพาราม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี วันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๑ ได้บรรพชาเป็นสามเณรฝ่ายธรรมยุต ที่วัดบูรพาราม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี พระศาสนาดิลก (เสน ชิตเสโน) เป็นพระอุปัชฌาย์
อุปสมบท : เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๘๕ ณ วัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร โดยมี พระปัญญาพิศาลเถร (หนู) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระธรรมปาโมกข์ (บุญมั่น มนฺตาสโย) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดบัว เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ปีพุทธศักราช ๒๔๘๗ – ๒๔๘๙ ท่านได้อพยพกลับไปจำพรรษาที่วัดบูรพาราม จังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างนั้น ท่านได้อาพาธอย่างหนักด้วยโรควัณโรค ต่อมาท่านได้พบกับ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร และท่านก็ได้ช่วยรักษาโดยการให้เพ่งถึง เพ่งอาการ ๓๒ โดยให้พิจารณาถึงความตายให้มากที่สุด ทั้งยังคอยให้กำลังใจกับท่านตลอดเวลา ท่านปฏิบัติตามคำสอนของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ได้ปีเศษ จิตเกิดมรณนิมิตเห็นตัวเองนอนตายแล้วแสดงอาการต่างๆ มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วดับไป เป็นต้น กายหายเหลือแต่จิตเพียงดวงเดียวสว่างไสวอยู่เป็นที่อัศจรรย์ จากนั้นมาวัณโรคที่ว่าร้ายไม่มียารักษาได้ในสมัยนั้นได้หายเป็นปลิดทิ้ง
จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๓ ท่านได้รับนิมนต์ให้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าสาละวัน จังหวัดนครราชสีมา ในระยะเวลาที่ท่านเป็นเจ้าอาวาส ท่านปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างไม่หยุดยั้ง และทำหน้าที่เป็นวิทยากรบรรยายธรรม สร้างคุณประโยชน์ต่อศาสนามากมาย และได้สร้างโรงเรียนราชอุปถัมภ์ สร้างอาคารให้เด็กนักเรียน มอบทุนสนับสนุนการก่อตั้งมูลนิธิของโรงเรียน ตลอดจนหน่วยงาน ราชการต่างๆ นอกจากนี้ท่านยังช่วยจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลเสมอๆ อีกทั้งยังมอบทุนสนับสนุนการก่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งมอบทุนสนับสนุนการก่อตั้งมูลนิธิของโรงพยาบาลต่างๆ อีกด้วย
ตำแหน่งทางคณะสงฆ์ :
• พ.ศ. ๒๔๙๕ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้ช่วยเจ้าคณะอำเภอวารินชำราบ (ธ)
• พ.ศ. ๒๔๙๖ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น เจ้าอาวาสวัดป่าแสนสำราญ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
• พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น เจ้าคณะอำเภอวารินชำราบ (ธ)
• พ.ศ. ๒๕๑๑ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธ)
• พ.ศ. ๒๕๑๓ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น เจ้าอาวาสวัดป่าสาละวัน เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๓
สมณศักดิ์ :
• พ.ศ. ๒๕๐๐ พระครูสัญญาบัตร ชั้นตรี ที่ “พระครูพุทธิสารสุนทร”
• พ.ศ. ๒๕๑๒ พระราชาคณะ ชั้นสามัญ ที่ "พระชินวงศาจารย์"
• พ.ศ. ๒๕๒๗ พระราชาคณะ ชั้นสามัญ ที่ "พระภาวนาพิศาลเถร"
• พ.ศ. ๒๕๓๕ พระราชาคณะ ชั้นราช ที่ "พระราชสังวรญาณ"
มรณภาพ : หลวงพ่อพุธ ท่านได้ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ สิริรวมอายุได้ ๗๘ ปี พรรษา ๕๖
ที่มา : http://jedeethai.blogspot.com/2009/12/blog-post_9538.html
http://th.wikipedia.org/wiki/พระราชสังวรญาณ_(พุธ_ฐานิโย)#cite_note-1
หนังสือ "ฐานิยบูชา ๒๕๔๔ : ๘๐ ปี หลวงพ่อพุธ ฐานิโย"
ตอบลบดาวน์โหลดได้ที่
http://www.dhammadana.net/media/pdf/%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B8%8A%E0%B8%B2.pdf
ขออนุโมทนาผู้จัดทำ http://www.dhammadana.net ครับ